ในบทนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับงาน 3D Animation หลักการทำงาน การใช้โปรแกรม 3ds Max และทำความเข้าใจคำศัพท์ที่ใช้ในโปรแกรมและเอกสารชุดนี้
เอกสารชุดนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยในการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรมอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นหรือมีความรู้เกี่ยวกับ 3D Animation มาบ้างแล้วก็ตาม หากคุณยังเป็นมือใหม่ เนื้อหาในบทนี้จะช่วยพาคุณให้รู้จักกับงานด้านนี้ในภาพรวม ส่วนผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ด้าน 3D มาแล้วจะได้รับประโยชน์ด้านคำศัพท์ที่ใช้ในโปรแกรมนี้ ซึ่งอาจมีชื่อเรียกและความหมายแตกต่างไปจากโปรแกรมอื่น
ในส่วน “พูดภาษา 3ds Max”
เนื้อหาดิจิตอล (Digital Content)
แน่นอนว่าความรู้และความเชี่ยวชาญในโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งอย่างแท้จริงเป็นสิ่งที่ดี แต่ความเข้าใจในภาพรวมของงานที่คุณทำงานอยู่ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกันกับโปรแกรม การเรียน ที่จะใช้ 3ds Max หรือ 3D โปรแกรมอื่นๆ อาจพูด ได้ว่า คล้ายกับการเรียนขับรถ แม้ว่าคุณจะสามารถใช้คันเร่งหรือพวงมาลัยได้ดีเยี่ยมสักแค่ไหนและขับรถได้คล่องสักเพียงใด คุณก็คงไม่ประสบความสำเร็จในการเดินทางหากคุณไม่รู้จัดเส้นทางและสัญญาณจราจร โปรแกรม 3D จึงเพียงส่วนหนึ่งที่ต้องมารวมกันกับส่วนประกอบอื่นๆ เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์
ภาพ 2D กับ 3D (2D vs. 3D Imaging)
เมื่อตอนเป็นเด็ก ในระหว่างนั่งดูโทรทัศน์คุณอาจเคยคิดว่าผู้คนที่อยู่ในจอโทรทัศน์นั้นเป็นคนที่มีชีวิตอยู่จริงๆ ภายในกล่องสี่เหลี่ยมนั่น แต่แล้วก็พบว่าภาพในจอนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนองศาการมองไปอย่างไร คนที่ยืนบังคนอีกคนหนึ่งในจอโทรทัศน์ก็ยังคง
ยืนบังอยู่อย่างนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะเคลื่อนที่ไปหามุมที่คิดว่าน่าจะมองเห็นคนที่อยู่ข้างหลังก็ตาม
ความเข้าใจผิดดังกล่าวสามารถอธิบายความแตกต่างระหว่าง 2D และ 3D ได้เป็นอย่างดี ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว 2 มิติ จะมองดูเหมือนเดิมตลอดเวลาไม่ว่าคุณจะมองมันจากทางซ้ายหรือขวา จากด้านบนหรือด้านล่าง ภาพ 3 มิติจะเปลี่ยนแปลงไปตามองศาการมองที่แตกต่างไป โลกที่คุณเห็นอยู่รอบๆ ตัวคือ ภาพ
3 มิติ ในขณะที่สิ่งต่างๆ ที่คุณเห็นในจอโทรทัศน์ , โรงภาพยนตร์ หรือแม้แต่จอคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นภาพ 2 มิติ
คำถามง่าย ๆ สำหรับตัดสินว่าภาพนั้นเป็น 2 หรือ 3 มิติก็คือ คุณสามารถมองเห็นภาพที่แตกต่างไปเมื่อคุณเปลี่ยนจุดการมองหรือไม่
ถ้าคำตอบคือ ใช่ ภาพนั้นเป็น 3 มิติ แต่ถ้าไม่มัน
ก็เป็น 2 มิติ เมื่อคุณทำงานกับ โปรแกรม 3D จะพบว่าคุณสามารถเปลี่ยนองศาและมุมมองในฉากได้ทุกทิศทาง คุณสามารถบังคับให้กล้องในโปรแกรมเคลื่อนที่ผ่านฉากได้ เมื่อฉากและการเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติถูกจัดวางให้เป็นไปตามที่ผู้สร้างงานต้องการแล้ว มันก็จะถูก Render ขั้นตอนนี้ทำให้เกิดภาพ 2 มิติ
หนึ่งภาพหรือมากกว่าหนึ่งภาพที่เกิดมาจากการจัดทำแบบ 3 มิติ Animation ที่คุณเห็นในโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ในไฟล์แบบ AVI หรือ MOV หรือในจอคอมพิวเตอร์ก็เป็นภาพและการเคลื่อนไหวแบบ 2 มิติทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามในกระบวนการสร้างนั้น มันอาจเคยเป็นภาพ 3 มิติมาก่อนก็ได้คำว่า “2D” และ “3D” ถูกใช้บ่อยครั้งในสายงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภาพจากคอมพิวเตอร์ และบางครั้งก็อาจเกิดความสับสนระหว่าง 2 คำนี้ ในอดีต เมื่อพูดถึงภาพยนตร์ที่สร้างจากงาน 3 มิติ คุณอาจคิดว่าจะต้องใส่แว่นตา สีแดง-น้ำเงินเพื่อจะชมภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องนั้น ภาพยนตร์ประเภทนั้นเป็นภาพยนตร์ ที่ต้องถ่ายภาพด้วยกล้องชนิดพิเศษและต้องใช้แว่นตา สีแดง-น้ำเงินในการชมเพื่อให้ได้เห็นภาพ
ที่เป็น 3 มิติ เทคนิคนี้รู้จักในชื่อของ “Stereoscopic imaging” แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาวลีที่ว่า “เป็น 3 มิติ” ได้เปลี่ยนความหมายมาเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นในคอมพิวเตอร์โดยใช้ โปรแกรม 3D อย่าง 3ds Max ในขณะที่เราใช้โปรแกรม 3D สร้างฉากต่างๆ ที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนมุมมองได้ โปรแกรม 2D เองก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ
ในการสร้างภาพจากคอมพิวเตอร์ ชุดโปรแกรมสำหรับสร้างภาพ 2 มิติ อย่าง Adobe Photoshop เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการลงสีพื้นหลังหรือสร้างพื้นผิวลวดลาย (ภาพวาดหรือ Wallpaper) สำหรับวัตถุ 3 มิติ นอกจากนี้โปรแกรม 2D ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้าง Special Effects ซึ่งสามารถทำได้ทั้งในแบบ 2D หรือ 3D การตัดสินใจเลือกใช้โปรแกรม 2D หรือ 3D นั้นขึ้นอยู่กับตัวศิลปินและ Effects ที่ต้องการให้เกิดขึ้น
อยากให้เขียนเกี่ยวกับก้าวสู่ blender 3D มั่งจังคะ