ทรูชี้ 3 ปัจจัยหนุนบรอดแบนด์ เร่งคลอดใบอนุญาตไวแม็กซ์

ทรู ชี้ช่องรัฐบาลไม่ควรเน้นลดค่าบริการบรอดแบนด์เพียงอย่าง เดียว แต่ควรจะเร่งออกไลเซนส์ไวแม็กซ์เสริมบรอดแบนด์ทางสาย พร้อมทั้งสนับสนุนพัฒนาคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ และอำนวยความสะดวกในการสร้างโครงข่ายผ่านพื้นที่สาธารณะ

นายนนท์ อิงคุทานนท์ ผู้จัดการทั่วไป Wire-line Broadband Services Business บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ได้เข้าพบผู้บริหารกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)เพื่อชี้แจงและนำเสนอในประเด็น ที่รัฐบาลต้องการผลักดันให้ประชากรในประเทศใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ด้วยความพยายามหาทางลดค่าบริการให้ถูกลงเพื่อช่วยให้ประชนสามารถเข้าถึงได้ มากขึ้นเนื่องจากพบว่ามีโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานที่สามารถให้บริการบรอด แบนด์ ADSL เข้าถึงประชากรได้เพียง 24% ของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ทรูเห็นว่าการเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงบรอดแบนด์ของคนไทยไม่ควรมุ่งเน้น การลดค่าบริการเพียงอย่างเดียว แต่รัฐบาลควรดำเนินการใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.เพิ่มการให้บริการบนโครงข่ายอื่นแทนการให้บริการบรอดแบนด์ทางสายเพียง อย่างเดียว โดยรัฐบาลควรจะเร่งออกใบอนุญาตไวแม็กซ์ หรือบริการไวร์เลสประเภทอื่นๆเพื่อช่วยเสริมการให้บริการบรอดแบนด์ทางสาย เพื่อการเข้าถึงในวงกว้างมากขึ้นโดยการให้ใบอนุญาตใหม่จะเป็นกลไกให้เอกชน และภาครัฐลงทุนสร้างโครงข่ายบรอดแบนด์เข้าถึงประชาชน โดยอัตโนมัติ

2.การเพิ่มประโยชน์ในการใช้บรอดแบนด์เพื่อจูงใจให้ประชาชนมีความต้อง การใช้งานในทุกเพศทุกวัย ด้วยการมุ่งเน้นพัฒนาคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์เช่นคอนเทนต์ด้านการศึกษา ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาอีบุ๊กในประเทศเกิดขึ้นน้อยมากและแม้กระทั่งการ สั่งซื้อหนังสือผ่านทางบรอดแบนด์ก็ยังไม่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้รัฐบาลควรมีการผลักดันให้มีการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีคอมเมิร์ซ ในประเทศอย่างจริงจัง เพื่อทำให้เห็นความจำเป็นของบรอดแบนด์และสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้มากขึ้น

“ปัจจุบัน การใช้งานบรอดแบนด์ในประเทศมักใช้สำหรับการรับส่งอีเมล์ แชท และเว็บโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ที่สามารถใช้งานบนโทรศัพท์ มือถือได้ ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตในบ้าน”

สำหรับประเด็นสุดท้าย รัฐบาลควรสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถลากสาย หรือ ติดตั้งโครงข่ายในพื้นที่ราชการง่ายขึ้นเพื่อช่วยให้การขยายโครงข่ายของ เอกชนเข้าถึงประชาชนในพื้นที่นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนแนวทางที่รัฐจะเป็นผู้ลงทุนสร้างโครงข่ายหลักให้เอกชนเช่าเพื่อช่วยลด ต้นทุนการดำเนินงานนั้นมองว่าปัจจุบันโครงข่ายที่เอกชนสร้างไว้มีจำนวนมากพอ แล้วซึ่งการสร้างโครงข่ายเพิ่มอาจจะไม่มีความจำเป็น

นายนนท์กล่าวต่อว่า ในปีนี้ทรูวางงบประมาณสำหรับสร้างและปรับปรุงโครงข่ายประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยจะเน้นเพิ่มความเร็วในพื้นที่มีโครงข่ายอยู่แล้วและขยายพื้นที่ครอบคลุม ของโครงข่ายไปยังลูกค้าตามชุมชนที่เกิดขึ้นใหม่ๆที่มีความต้องการใช้งาน พร้อมทั้งการขยายบริการออกไปตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดโดยขณะนี้ได้เริ่ม ให้บริการที่พัทยาไปแล้ว ซึ่งปีนี้ทรูตั้งเป้ามีลูกค้าบรอดแบนด์ทั้งสิ้น 700,000 ราย โดยในด้านการตลาดขณะนี้ทรูได้เปิดให้บริการอัพเกรดความเร็วบรอดแบนด์สูงสุด ในตลาดเป็น 12 เมกะบิตฟรีสำหรับลูกค้าที่ใช้แพ็คเกจ 8 เมกะบิตเดิมเป็นเวลา 2 เดือน (1 ส.ค.-30 ก.ย. 52) เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้จริงก่อน แล้วหลังจากนั้นจะประเมินความต้องการใช้และสภาพตลาดก่อนจะจัดแพ็คเกจให้ บริการในอนาคต โดยคาดว่าค่าบริการรายเดือนจะอยู่ที่1,699 บาท

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *