ก่อนการใช้โปรแกรม คุณจำเป็นต้องทราบเงื่อนไขการทำงานของแต่ละโปรแกรมเสียก่อน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตามที่คุณต้องการ เช่น ถ้าคุณต้องการใช้ภาพลวดลายต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกมาใช้ในการสร้างฉาก 3 มิติ ก็จะต้องใช้โปรแกรมสร้างภาพแบบ 2 มิติ ซึ่งในโปรแกรมสร้างภาพ 2 มิตินั้น คุณสามารถปรับแต่งภาพจากเครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ ซึ่งเรียกว่าการประมวลภาพ (Image Processing) โปรแกรม Adobe PhotoShop เป็นโปรแกรมสร้างภาพ 2 มิติที่ได้รับความนิยมมากโปรแกรมหนึ่ง
ที่คุณสามารถปรับค่าความแตกต่างของสี , ลบเงาหรือส่วนที่ไม่ต้องการออก หรือปรับแต่งภาพด้วยเทคนิคตกแต่งภาพอื่นๆ
เมื่อคุณพอใจกับการปรับแต่งภาพแล้ว คุณก็สามารถนำภาพที่ได้มาใช้เป็นพื้นหลังหรือลวดลายของสิ่งต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม 3 มิติ
โดยบันทึกภาพในรูปของ Bitmap ที่ 3ds Max สามารถจะใช้งานได้ ควรบันทึกไฟล์ภาพให้มีนามสกุลเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ : AVI, MOV, TGA, BMP, RPF, RLA, JPG, TIF, PNG, YUV, CIN, FLC, PSD, IPP, GIF, IFL และ RGB เมื่อบันทึกไฟล์ภาพแล้วคุณก็สามารถนำมันไปสร้างเป็นรูปแบบของ Materials ในงาน 3 มิติได้
ถ้าคุณเลือกโปรแกรมที่ทำงานแยกต่างหากหรือ Stand alone เช่น Discreet’s Combustion คุณจะพบข้อได้เปรียบเมื่อการใช้ 3ds Max ร่วมกับกับ Combustion เพื่อทำ Special Effects เพราะโปรแกรมทั้งสองจะทำงานร่วมกันผ่านไฟล์สกุลพิเศษที่เรียกว่า RPF ซึ่งย่อมาจาก Rich Pixel Format 3ds Max เป็นโปรแกรมเดียวที่ยอมให้คุณบันทึกไฟล์สกุลนี้ และมีเพียง Combustion เท่านั้นที่อ่านไฟล์สกุลนี้ได้ โดยไฟล์สกุลนี้จะอนุญาตให้ 3ds Max Render ผลงานและให้ Combustion อ่านช่องข้อมูลสำคัญอย่าง Z-Buffer, Effects ของMaterial , สี, วัตถุ และ UV Coordinates โดย Combustion จะยอมให้คุณสร้างองค์ประกอบของภาพ ที่แม้ว่าจะถูก Render มาแล้วในไฟล์ต้นฉบับ ถ้าคุณต้องการเปลี่ยน Material คุณก็สามารถทำได้โดยการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ ใน Combustion แทนที่จะต้องทำการ Render ใน 3ds Max ใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง โปรแกรมทั้งสองชุดนี้สามารถช่วยประหยัดได้มากในการ Render และการสร้างองค์ประกอบ
การทำงานกับส่วนประกอบต่างๆ
Leave a reply