หลังจากที่ผลงานถูกสร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวีดิโอ Animation หรือดนตรี ก็จะมีการตัดต่อเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สุดท้าย การตัดต่อ หมายถึง การจัดลำดับภาพต่อเนื่องอย่างถูกต้องเหมาะสม เพิ่มเสียงดนตรี , ชื่อเรื่อง , เสียง Effects และส่วนประกอบอื่นๆตามต้องการเพื่อให้ผลงานเสร็จสิ้นสมบูรณ์
ในอดีต การจัดทำวีดิโอจะต้องถ่ายภาพเป็นลำดับจากต้นเรื่องไปจนจบเรื่อง และเมื่อภาพถูกนำมารวมกันแล้ว การเปลี่ยนแปลงความยาวของเนื้อเรื่องส่วนต่างๆหรือเพิ่มบางสิ่งเข้าไปก็เป็นเรื่องยาก การตัดต่อฟิล์มภาพยนตร์อาจมีความยืดหยุ่นมากกว่าแต่การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ยังเป็นเรื่องที่ใช้เวลามากและไม่สะดวกนัก
ปัจจุบัน ได้มีโปรแกรมสำหรับใช้ในการตัดต่อแบบ Non-Linear (ไม่เรียงลำดับ) ซึ่งทำให้การตัดต่อเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ภาพต่อเนื่องต่างๆ (ภาพยนตร์, วีดิโอ และ Animation ) รวบรวมไว้บนไทม์ไลน์ (Timeline) เลือกช่วงเวลาที่ภาพนั้นควรปรากฏ ในระหว่างขั้นตอนการตัดต่อ เราสามารถชมผลงานได้ทุกเวลา และสามารถเพิ่มส่วนประกอบต่างๆ เข้าไปได้ง่ายๆ ด้วยการเลื่อนส่วนที่มีอยู่แล้วออกไปตามระยะเวลาให้เพียงพอกับส่วนที่เพิ่มมาใหม่ ซึ่งหมายความว่า
ผู้ตัดต่อหรือลูกค้าสามารถชมผลงานที่อยู่ในระหว่างการจัดทำและทำการปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เมื่อผลงานเสร็จสมบูรณ์ ก็สามารถส่งออกมาในรูปแบบวีดิโอ ,ภาพยนตร์ หรือไฟล์ภาพเคลื่อนไหว เช่น AVI ในกรณีที่ต้องการใช้โปรแกรมตัดต่อภาพแบบ Non-Linear กับฟิล์มภาพยนตร์หรือวีดิโอ ภาพต่อเนื่องทั้งหมดจะต้องถูกทำให้เป็นดิจิตอลก่อน การทำให้เป็นดิจิตอล หมายถึง
การแปลงฟิล์มภาพยนตร์หรือวีดิโอให้เป็น ภาพดิจิตอล ซึ่งคอมพิวเตอร์สามารถอ่านข้อมูล ได้โดยจำเป็นต้องมีฮาร์ดแวร์เฉพาะสำหรับดำเนินการนี้ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะของโปรแกรมที่ใช้ด้วย ภาพต่อเนื่องที่เป็น 3 มิติ
ที่จะใช้กับโปรแกรมสำหรับตัดต่อภาพนั้นจะต้องผ่านการ Render ให้ไปเป็นไฟล์ที่ใช้กับระบบการตัดต่อแบบ Non-Linear ได้เสียก่อน และวีดิโอกับวัตถุเคลื่อนไหวก็สามารถนำมารวมกันได้อย่างง่ายดายด้วยโปรแกรมตัดต่อภาพนี้ สมมุติว่าคุณต้องการจะสร้างฉากๆ หนึ่ง
ที่มียานอวกาศขนาดมหึมาจอดอยู่บนพื้นทราย ที่ดูคล้ายกับฉากในภาพยนตร์เรื่อง Men in Black ก่อนอื่นคุณจะถ่ายภาพหุ่นจำลองของยานอวกาศที่อยู่บนพื้นทรายจริงๆ ด้วยกล้องวีดิโอ จากนั้นแปลงมันให้เป็นดิจิตอล คุณสามารถใช้สิ่งที่คุณถ่ายมาเป็นตัวอ้างอิง ในขณะที่สร้างระบบ Particles
ใน 3ds Max เพื่อให้มีเม็ดทรายลอยขึ้น โดย Render มันออกมาทีละเฟรมตามลำดับ จากนั้น องค์ประกอบ 2อย่าง คือ ภาพที่คุณถ่ายไว้กับภาพทรายที่ผ่านการ Render แล้วมาใส่ไว้รวมกันในโปรแกรมตัดต่อภาพแบบ Non-Linear พร้อมกับเพิ่มเสียง Effects และส่วนประกอบ
ที่จำเป็นอื่นๆ ผลงานขั้นสุดท้ายจะส่งออกมาเป็นไฟล์ที่มีรูปแบบเฉพาะและฮาร์ดแวร์สำหรับการตัดต่อก็จะถูกใช้ในการบันทึกภาพต่อเนื่องเหล่านั้นไปสู่วีดิโอหรือฟิล์มภาพยนตร์ ตัวอย่างของโปรแกรมตัดต่อภาพแบบ Non-Linear ได้แก่ Abode Premiere, In Sync Speed Razor, Media 100 และ Avid system สำหรับแมคอินทอช
การตัดต่อแบบ Non-Linear
Leave a reply